ศึกชิงเกมเก้าอี้ประธานสภา 2566 ถือว่าสำคัญอย่างมาก เพราะเก้าอี้ประธานสภา จะเป็นผู้คุมเกมในฝ่ายนิติบัญญัติทั้งหมด ตั้งแต่การควบคุมการประชุม ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การตรวจสอบการทำงานในอนาคต ขณะเดียวกัน รัฐสภาถือว่าเป็นเวทีสะท้อนปัญหา จากกลุ่มตัวแทนของประชาชน ที่เรียกตัวเองว่า ส.ส. เพื่อมาหารือ แก้ไข พัฒนาให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
- การลงคะแนนลับ
ในการประชุมสภา ทั้งสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รัฐสภา หรือสภานิติบัญญัติ ต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์รายละเอียดต่างๆ ในการประชุม นับแต่ผู้เข้าร่วมประชุม
หัวข้อเรื่องที่ประชุม และการอภิปรายระหว่างสมาชิกที่อาจถือได้ว่าเป็นหัวใจของการประชุมสภาเพราะเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการอธิบายเหตุผลในทำนองปรึกษาหารืออย่างละเอียดรอบคอบในญัตติที่มีผู้เสนอ
หลังจากนั้นจะหาข้อยุติของการอภิปรายโดยการลงมติในเรื่องที่ประชุมซึ่งเป็นการขอความเห็นชอบจากที่ประชุม เป็นการแสดงออกทางความเห็นชอบผ่านระบบรัฐสภาที่จะต้องลงมติวินิจฉัยให้เด็ดขาดโดยการออกเสียงลงคะแนน
การออกเสียงลงคะแนน จึงหมายถึง วิธีการลงมติของสมาชิกในที่ประชุม หลังจากที่ประธานถามมติต่อที่ประชุม โดยการออกเสียงลงคะแนนจำแนกได้เป็นสองประเภท คือ การออกเสียงคะแนนเปิดเผย และการออกเสียงลงคะแนนลับ โดยปกติแล้ว การออกเสียงลงคะแนนจะต้องกระทำโดยเปิดเผย แต่ถ้าหากจำเป็นจริงๆ จะขอให้ลงคะแนนลับก็ได้ โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อบังคับการประชุมของสภา
“เสรี” เทียบสเปกแคนดิเดตประธานสภา ชี้“สุชาติ”เหมาะกว่า “ปดิพัทธ์”
เปิดประวัติ "ปดิพัทธ์ – หมออ๋อง" รองประธานสภา คนที่ 1
สำหรับการออกเสียงลงคะแนนลับในปัจจุบัน ในปัจจุบันการออกเสียงลงคะแนนโดยลับจะมีกำหนดไว้ในข้อคับการประชุมสภาของทุกสภาซึ่งสาระสำคัญมีความคล้ายคลึงกันแต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดเล็กน้อยดังต่อไปดังนี้
- การประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2551 ได้บัญญัติถึงการออกเสียงลงคะแนนลับว่าจะกระทำได้ต่อเมื่อสมาชิกเสนอญัตติโดยมีผู้รับรองไม่น้อยกว่ายี่สิบคนขอให้กระทำเป็นการลับ แต่ถ้ามีสมาชิกคัดค้านและมีผู้รับรองไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของสมาชิกในที่ประชุมให้ถือเป็นเอกสิทธิ์ที่จะลงคะแนนโดยเปิดเผย และกรณีการออกเสียงลงคะแนนเลือกหรือให้ความเห็นชอบให้บุคคลดำรงตำแหน่งใดตามมาตรา 126 วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญให้กระทำเป็นการลับ
- วิธีการออกเสียงลงคะแนนลับ
(1) เขียนเครื่องหมายบนแผ่นกระดาษใส่ซองที่เจ้าหน้าที่จัดให้ ผู้เห็นด้วยให้เขียนเครื่องหมายถูก ผู้ไม่เห็นด้วยให้เขียนเครื่องหมายกากบาท ส่วนผู้ไม่ออกเสียงให้เขียนเครื่องหมายวงกลม
(2) วิธีอื่นใดซึ่งที่ประชุมเห็นสมควรเฉพาะกรณี
สมาชิกที่เข้ามาในที่ประชุมระหว่างการออกเสียงลงคะแนนอาจออกเสียงลงคะแนนได้ก่อนประธานสั่งปิดการนับคะแนน
เมื่อได้นับคะแนนเสียงแล้ว ให้ประธานประกาศมติต่อที่ประชุมทันที ถ้าเรื่องใดที่รัฐธรรมนูญ กฎหมาย หรือข้อบังคับการประชุมกำหนดไว้ว่ามติจะต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงถึงจำนวนเท่าใดก็ให้ประกาศด้วยว่าคะแนนเสียงข้างมากถึงจำนวนที่กำหนดไว้นั้นหรือไม่
ญัตติใดไม่มีผู้คัดค้าน ให้ประธานถามที่ประชุมว่ามีผู้เห็นเป็นอย่างอื่นหรือไม่ เมื่อไม่มีผู้เห็นเป็นอย่างอื่น ให้ถือว่าที่ประชุมลงมติเห็นชอบด้วยญัตตินั้น เว้นแต่ญัตติที่เป็นร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ร่างพระราชบัญญัติ หรือเรื่องอื่นใดที่รัฐธรรมนูญหรือข้อบังคับกำหนดให้ที่ประชุมวินิจฉัยโดยการออกเสียงลงคะแนน
สำหรับการออกเสียงลงคะแนนลับ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไม่ต้องปิดประกาศบันทึกการออกเสียงลงคะแนนของสมาชิกแต่ละคนไว้ ณ บริเวณสภาที่ประชาชนเข้าไปตรวจสอบได้เหมือนอย่างการออกเสียงลงคะแนนเปิดเผย
ส่วนการประชุมรัฐสภา ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2553 ได้กำหนดว่ารัฐสภาจะการออกเสียงลงคะแนนลับได้ต่อเมื่อคณะรัฐมนตรีร้องขอหรือสมาชิกรัฐสภาเสนอญัตติโดยมีสมาชิกรัฐสภารับรองไม่น้อยกว่าสี่สิบคน ขอให้กระทำเป็นการลับ แต่ถ้ามีสมาชิกรัฐสภาคัดค้านและมีผู้รับรองไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของสมาชิกรัฐสภาในที่ประชุมรัฐสภาให้ถือเป็นเอกสิทธิ์ที่จะลงคะแนนโดยเปิดเผย
- ย้อนกลับไปในอดีต การออกเสียงลงคะแนนลับ
ในการประชุมสภาแต่ละครั้ง เมื่อการอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาใดยุติลงโดยไม่มีผู้อภิปรายก็ดี ที่ประชุมลงมติให้ปิดอภิปรายก็ดี ถ้าเป็นกรณีที่จะต้องมีมติ ประธานจะขอให้ที่ประชุมชี้ขาดปัญหานั้นโดยการออกเสียงลงมติ การออกเสียงลงมติมี 2 วิธี คือ การออกเสียงลงคะแนนเปิดเผย และการออกเสียงลงคะแนนลับ
โดยปกติการออกเสียงลงคะแนนจะต้องกระทำโดยเปิดเผย เว้นแต่คณะรัฐมนตรีหรือสมาชิกร้องขอให้ลงคะแนนลับ จึงให้ลงคะแนนลับ ตามข้อบังคับการประชุมที่ได้บัญญัติไว้คล้ายๆกันทุกฉบับ จะมีข้อแตกต่างกันเฉพาะจำนวนสมาชิกที่ร้องขอให้ลงคะแนนลับ เช่น ข้อบังคับการประชุมและการปรึกษาของสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2476 กำหนดให้คณะรัฐมนตรีร้องขอหรือสมาชิกเสนอญัตติโดยมีสมาชิกรับรองสี่คนร้องขอ ข้อบังคับการประชุมและการปรึกษาของสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2490 และ พ.ศ. 2495 กำหนดให้คณะรัฐมนตรีหรือสมาชิกเสนอญัตติ ไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าคนร้องขอ ข้อบังคับการประชุมปรึกษาของสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2504 กำหนดให้คณะรัฐมนตรีหรือสมาชิกเสนอญัตติ ไม่น้อยกว่าสิบห้าคนร้องขอ ข้อบังคับการประชุมปรึกษาของสภาผู้แทน พ.ศ. 2513 และข้อบังคับการประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่รัฐสภา พ.ศ. 2517 กำหนดให้คณะรัฐมนตรีหรือสมาชิกเสนอญัตติ ไม่น้อยกว่าสามสิบสามคนร้องขอ และข้อบังคับการประชุมของวุฒิสภา พ.ศ. 2522 และ พ.ศ. 2528 กำหนดให้คณะรัฐมนตรีหรือสมาชิกเสนอญัตติไม่น้อยกว่ายี่สิบคนร้องขอ เป็นต้น
วิธีการออกเสียงลงคะแนนลับในอดีตตามข้อบังคับการประชุมและการปรึกษาของสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่ พ.ศ. 2476 จนถึงข้อบังคับการประชุมของรัฐสภา พ.ศ. 2539 มีวิธีปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) เขียนเครื่องหมายบนแผ่นกระดาษใส่ซองที่เจ้าหน้าที่จัดให้ ผู้เห็นด้วยให้เขียนเครื่องหมายถูก ผู้ไม่เห็นด้วยให้เขียนเครื่องหมายกากบาท ส่วนผู้ไม่ออกเสียงให้เขียนเครื่องหมายวงกลม
(2) ลงเบี้ยในตู้ทึบ โดยผู้เห็นด้วยให้ลงเบี้ยสีน้ำเงิน ผู้ไม่เห็นด้วยให้ลงเบี้ยสีแดง ส่วนผู้ไม่ออกเสียงให้ลงเบี้ยสีขาว
(3) วิธีอื่นใดซึ่งที่ประชุมเห็นสมควรเฉพาะกรณี
การที่จะให้ออกเสียงลงคะแนนตามข้อ (1) หรือ (2) และวิธีการให้เป็นไปตามอำนาจของประธานที่จะพิจารณากำหนดตามเห็นสมควร
สำหรับการเลือกประธานสภา มีไทม์ไลน์ดังต่อไปนี้
พิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ในวันที่ 3 ก.ค.ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเสด็จพระราชดำเนินประกอบรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา เวลา 17.00 น.
วันที่ 4 ก.คคำพูดจาก สล็อตออนไลน์. จะมีการประชุม เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานฯ ในเวลา 09.00-09.30 น.
ข้อมูลจาก : สถาบันพระปกเกล้า